The Golden Bird (2)
อ่านตอนที่ 1
เช้าวันรุ่งขึ้น เขาก็ได้พบกับจิ้งจอกตัวเดิม และจิ้งจอกตัวนั้นก็ได้ให้คำแนะนำว่า
"ให้มุ่งหน้าตรงไปจนกระทั่งเจอปราสาท ระหว่างนั้นเจ้าจะเจอกองร้อยทหารที่กำลังนอนสลบไสล ท่ามกลางเสียงกรนเหล่านั้น ขอให้อย่าได้สนใจจนกระทั่งถึงในตัวประสาท จะเจอห้องๆหนึ่ง ห้องที่นกสีทองนั้นถูกขังอยู่ในกรงไม้ ซึ่งข้างๆจะมีกรงสีทองที่ดูแข็งแรง แต่ขออย่าได้คิดที่จะนำนกตัวนั้นออกมาจากกรงที่ดูไม่แข็งแรงนั้นมาใส่ในกรงใหม่เด็ดขาด"
เมื่อไปถึงปราสาท และพบกับห้องที่อยู่ของนกสีทองตัวนั้น เขาก็ได้เห็นตามที่สุนัขจิ้งจอกให้คำแนะนำไว้ และแอปเปิ้ลสามลูกที่เจ้านกตัวนั้นได้ขโมยมาวางนอนอยู่ใกล้ๆ แต่ ณ ตอนนั้น เขาก็คิดว่า
"มันคงดูน่าขำนัก ถ้าจะพานกที่ดูแข็งแรงแบบนี้กลับไปพร้อมกับกรงที่มีสภาพเก่าๆแบบนั้น"
เขาจึงจับนกตัวนั้นมาใส่ในกรงสีทอง แต่นกตัวนั้นกลับร้องดังสุดเสียง ทำให้เหล่าทหารที่หลับอยู๋ตื่นขึ้น และจับตัวลูกชายคนที่สามไป และถูกตัดสินให้ประหารชีวิตเท่านั้น แต่มีเงื่อนไขว่า ถ้าหากเขาสามารถจับม้าสีทองที่มีความเร็วดุจสายลมกลับมาได้ เขาจะได้รับการไว้ชีวิตและสามารถนำนกสีทองกลับไปยังเมืองของตนได้
การเดินทางของลูกชายคนที่สามได้เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง แต่คราวนี้มันกลับเต็มไปด้วยความสิ้นหวังและท้อใจ พลันนั้น สุนัขจิ้งจอกก็ได้ปรากฎตัวขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับพูดว่า
"เห็นแล้วใช่ไหม ว่าการไม่เชื่อฟังคำแนะนำของข้า ทำให้เกิดอะไรขึ้น คราวนี้ ข้าจะแนะนำเจ้าอีกครั้งว่าจะตามหาม้าสีทองได้อย่างไร แต่นั่นก็ต่อเมื่อเจ้าทำตามคำแนะนำของข้าที่กำลังจะบอกเจ้านะ"
"ให้ตรงไปยังปราสาทจนกระทั่งเจอม้าที่อยู่ในคอก ข้างๆม้าจะเห็นว่ามีคนดูแลม้านอนหลับกรนอยู่ ให้นำม้าออกมาอย่างเงียบๆ และให้แน่ใจว่าได้นำอานม้าที่ทำจากหนังเก่าๆมา ห้ามนำอานม้าสีทองที่อยู่ใกล้กันมาเด็ดขาด"
เมื่อไปถึง ก็เป็นดังที่สุนัขจิ้งจอกได้กล่าวไว้ แต่เขากลับเสียดายที่จะต้องเอาอานม้าที่ทำจากหนังเก่าๆ แทนที่จะเป็นอานม้าสีทองที่ดูสวยงาม เขาจึงหยิบอานม้าสีทองมาแทน แต่เมื่อหยิบขึ้นมา คนดูแลม้าที่หลับอยู่ก็ตื่นขึ้นและร้องเสียงดัง จนทหารบุกมาจับตัวเขาอีกครั้ง และตัดสินโทษประหารชีวิตให้แก่เขา แต่หากเขาสามารถนำเจ้าหญิงแสนสวยมาได้ เขาก็จะได้รับการไว้ชีวิต และทั้งม้าและนกสีทองก็จะเป็นของเขา
เขาจึงเริ่มเดินทางอีกครั้งด้วยความโศกเศร้าสิ้นหวังและกดดัน แต่ทันใดนั้นสุนัขจิ้งจอกตัวเดิมก็ได้ปรากฎตัวขึ้นอีกครั้ง
"ทำไมเจ้าถึงไม่ฟังข้า ถ้าเจ้ายอมฟังข้าซักนิด เจ้าก็จะได้ทั้งม้าและนกกลับไป เอาละ ข้าจะให้คำแนะนำกับเจ้าอีกครั้ง ให้เจ้าเดินตรงไปเรื่อยๆ จนพลบค่ำเจ้าจะเจอปราสาท ในยามเที่ยงคืนเจ้าหญิงจะไปที่โรงอาบน้ำ ให้ตามเธอไปแล้วมอบจูบให้กับเธอซะ แล้วนางจะยอมให้เจ้าพานางออกไป แต่เจ้าต้องห้ามให้นางไปกล่าวลาพ่อและแม่ของนางเด็ดขาด"
และเมื่อมาถึงปราสาท ในตอนเที่ยงคืนก็เป็นดังที่สุนัขจิ้งจอกได้กล่าวไว้ เขาได้พบกับเจ้าหญิงและมอบจูบให้นาง และนางได้ตกลงที่จะหนีไปกับเขา แต่ในตอนนั้นเจ้าหญิงกลับร้องไห้ตลอดเนื่องจากต้องจากพ่อและแม่ไป ในตอนแรกเขาได้ปฏิเสธที่จะให้นางไปกล่าวลาพ่อของเธอ แต่เมื่อเจ้าหญิงร้องไห้หนักขึ้น ก่อนจะล้มลงแทบเท้าเขา เขาจึงใจอ่อนยอมให้นางไปพบพ่อ แต่แล้ว ทหารที่หลับอยู่ก็ตื่นขึ้น และจับกุมตัวเขาไปอีกครั้ง
เขาถูกจับตัวไปพบพระราชา พระราชาทรงตรัสว่าหากเขาสามารถขุดภูเขาที่บังวิวทิวทัศน์นอกหน้าต่างห้องของพระองค์ได้ภายในแปดวัน พระองค์จะทรงยกลูกสาวให้ เขาจึงพยายามขุดแล้วขุดเล่า ผ่านไปเจ็ดวัน เขาขุดได้เพียงนิดเดียวเท่านั้น ทันใดนั้น สุนัขจิ้งจอกตัวเดิมก็ได้ปรากฎขึ้นและบอกให้เขานอนหลับซะ แล้วสุนัขจิ้งจอกก็ทำการขุดเขาลูกนั้นแทน
เช้าวันรุ่งขึ้น ลูกชายคนที่สามได้ตื่นขึ้นมาก็พบว่าภูเขาลูกนั้นได้หายไปแล้ว พระราชาจึงยกลูกสาวให้กับเขา ทันใดนั้น สุนัขจิ้งจอกได้ปรากฎขึ้นอีกครั้ง คราวนี้เขามีทั้งเจ้าหญิง ม้า และนก ช่างยอดเยี่ยมจริงๆ แต่...แล้วจะทำอย่างไรต่อละ
อ่านต่อ
เช้าวันรุ่งขึ้น เขาก็ได้พบกับจิ้งจอกตัวเดิม และจิ้งจอกตัวนั้นก็ได้ให้คำแนะนำว่า
"ให้มุ่งหน้าตรงไปจนกระทั่งเจอปราสาท ระหว่างนั้นเจ้าจะเจอกองร้อยทหารที่กำลังนอนสลบไสล ท่ามกลางเสียงกรนเหล่านั้น ขอให้อย่าได้สนใจจนกระทั่งถึงในตัวประสาท จะเจอห้องๆหนึ่ง ห้องที่นกสีทองนั้นถูกขังอยู่ในกรงไม้ ซึ่งข้างๆจะมีกรงสีทองที่ดูแข็งแรง แต่ขออย่าได้คิดที่จะนำนกตัวนั้นออกมาจากกรงที่ดูไม่แข็งแรงนั้นมาใส่ในกรงใหม่เด็ดขาด"
เมื่อไปถึงปราสาท และพบกับห้องที่อยู่ของนกสีทองตัวนั้น เขาก็ได้เห็นตามที่สุนัขจิ้งจอกให้คำแนะนำไว้ และแอปเปิ้ลสามลูกที่เจ้านกตัวนั้นได้ขโมยมาวางนอนอยู่ใกล้ๆ แต่ ณ ตอนนั้น เขาก็คิดว่า
"มันคงดูน่าขำนัก ถ้าจะพานกที่ดูแข็งแรงแบบนี้กลับไปพร้อมกับกรงที่มีสภาพเก่าๆแบบนั้น"
เขาจึงจับนกตัวนั้นมาใส่ในกรงสีทอง แต่นกตัวนั้นกลับร้องดังสุดเสียง ทำให้เหล่าทหารที่หลับอยู๋ตื่นขึ้น และจับตัวลูกชายคนที่สามไป และถูกตัดสินให้ประหารชีวิตเท่านั้น แต่มีเงื่อนไขว่า ถ้าหากเขาสามารถจับม้าสีทองที่มีความเร็วดุจสายลมกลับมาได้ เขาจะได้รับการไว้ชีวิตและสามารถนำนกสีทองกลับไปยังเมืองของตนได้
การเดินทางของลูกชายคนที่สามได้เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง แต่คราวนี้มันกลับเต็มไปด้วยความสิ้นหวังและท้อใจ พลันนั้น สุนัขจิ้งจอกก็ได้ปรากฎตัวขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับพูดว่า
"เห็นแล้วใช่ไหม ว่าการไม่เชื่อฟังคำแนะนำของข้า ทำให้เกิดอะไรขึ้น คราวนี้ ข้าจะแนะนำเจ้าอีกครั้งว่าจะตามหาม้าสีทองได้อย่างไร แต่นั่นก็ต่อเมื่อเจ้าทำตามคำแนะนำของข้าที่กำลังจะบอกเจ้านะ"
"ให้ตรงไปยังปราสาทจนกระทั่งเจอม้าที่อยู่ในคอก ข้างๆม้าจะเห็นว่ามีคนดูแลม้านอนหลับกรนอยู่ ให้นำม้าออกมาอย่างเงียบๆ และให้แน่ใจว่าได้นำอานม้าที่ทำจากหนังเก่าๆมา ห้ามนำอานม้าสีทองที่อยู่ใกล้กันมาเด็ดขาด"
เมื่อไปถึง ก็เป็นดังที่สุนัขจิ้งจอกได้กล่าวไว้ แต่เขากลับเสียดายที่จะต้องเอาอานม้าที่ทำจากหนังเก่าๆ แทนที่จะเป็นอานม้าสีทองที่ดูสวยงาม เขาจึงหยิบอานม้าสีทองมาแทน แต่เมื่อหยิบขึ้นมา คนดูแลม้าที่หลับอยู่ก็ตื่นขึ้นและร้องเสียงดัง จนทหารบุกมาจับตัวเขาอีกครั้ง และตัดสินโทษประหารชีวิตให้แก่เขา แต่หากเขาสามารถนำเจ้าหญิงแสนสวยมาได้ เขาก็จะได้รับการไว้ชีวิต และทั้งม้าและนกสีทองก็จะเป็นของเขา
เขาจึงเริ่มเดินทางอีกครั้งด้วยความโศกเศร้าสิ้นหวังและกดดัน แต่ทันใดนั้นสุนัขจิ้งจอกตัวเดิมก็ได้ปรากฎตัวขึ้นอีกครั้ง
"ทำไมเจ้าถึงไม่ฟังข้า ถ้าเจ้ายอมฟังข้าซักนิด เจ้าก็จะได้ทั้งม้าและนกกลับไป เอาละ ข้าจะให้คำแนะนำกับเจ้าอีกครั้ง ให้เจ้าเดินตรงไปเรื่อยๆ จนพลบค่ำเจ้าจะเจอปราสาท ในยามเที่ยงคืนเจ้าหญิงจะไปที่โรงอาบน้ำ ให้ตามเธอไปแล้วมอบจูบให้กับเธอซะ แล้วนางจะยอมให้เจ้าพานางออกไป แต่เจ้าต้องห้ามให้นางไปกล่าวลาพ่อและแม่ของนางเด็ดขาด"
และเมื่อมาถึงปราสาท ในตอนเที่ยงคืนก็เป็นดังที่สุนัขจิ้งจอกได้กล่าวไว้ เขาได้พบกับเจ้าหญิงและมอบจูบให้นาง และนางได้ตกลงที่จะหนีไปกับเขา แต่ในตอนนั้นเจ้าหญิงกลับร้องไห้ตลอดเนื่องจากต้องจากพ่อและแม่ไป ในตอนแรกเขาได้ปฏิเสธที่จะให้นางไปกล่าวลาพ่อของเธอ แต่เมื่อเจ้าหญิงร้องไห้หนักขึ้น ก่อนจะล้มลงแทบเท้าเขา เขาจึงใจอ่อนยอมให้นางไปพบพ่อ แต่แล้ว ทหารที่หลับอยู่ก็ตื่นขึ้น และจับกุมตัวเขาไปอีกครั้ง
เขาถูกจับตัวไปพบพระราชา พระราชาทรงตรัสว่าหากเขาสามารถขุดภูเขาที่บังวิวทิวทัศน์นอกหน้าต่างห้องของพระองค์ได้ภายในแปดวัน พระองค์จะทรงยกลูกสาวให้ เขาจึงพยายามขุดแล้วขุดเล่า ผ่านไปเจ็ดวัน เขาขุดได้เพียงนิดเดียวเท่านั้น ทันใดนั้น สุนัขจิ้งจอกตัวเดิมก็ได้ปรากฎขึ้นและบอกให้เขานอนหลับซะ แล้วสุนัขจิ้งจอกก็ทำการขุดเขาลูกนั้นแทน
เช้าวันรุ่งขึ้น ลูกชายคนที่สามได้ตื่นขึ้นมาก็พบว่าภูเขาลูกนั้นได้หายไปแล้ว พระราชาจึงยกลูกสาวให้กับเขา ทันใดนั้น สุนัขจิ้งจอกได้ปรากฎขึ้นอีกครั้ง คราวนี้เขามีทั้งเจ้าหญิง ม้า และนก ช่างยอดเยี่ยมจริงๆ แต่...แล้วจะทำอย่างไรต่อละ
อ่านต่อ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น